เป็นการวิเคราะห์จาก volume
ที่ขายออกในแต่ละวันเพื่อหาว่าหุ้นของบริษัทไหนเป็นที่นิยมมากที่สุดและจัดอันดับได้ดังนี้
|
*คิดเป็น % จากหุ้นรวมที่ขายออกทั้งหมดจากหุ้นตัวอย่างในช่วงวันที่ 20/5/2018-20/11/2018
|
-
Apple คิดเป็น 31%
-
Microsoft คิดเป็น 29%
-
Intel คิดเป็น 27%
-
HP คิดเป็น 9%
-
Google คิดเป็น 4%
|
โดยจากกราฟจะสังเกตได้ว่า หุ้น 3 อันดับแรก ปริมาณที่ขายออกต่อวันอยู่ที่หลัก 10 ล้านหน่วย และ 2
อันดับสุดท้ายอยู่ที่หลัก ล้านหน่วย
|
ทำไมหุ้น AAPL และ MSFT ถึงสูง?
|
    เพราะ บริษัทผลิตภัณฑ์ของ บริษัท apple เป็นที่นิยมของคนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่น
iPhone iPad Mac TV Music และมีในส่วนของเทคโนโลยีที่ถือว่าทันสมัยอย่าง apple watch
จึงถือว่าเป็นบริษัทที่สามารถขายของออกได้มากเลยทีเดียว
|
    ส่วน MSFT ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าพ่อ เทคโนโลยีอยู่แล้วยิ่งคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ใช้ Window
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักซึ่งเข้าถึงผู้ใช้ทุกรูปแบบ ทั้งส่วนตัว และ ธุรกิจองค์กร
Microsoft ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น X-box และเป็นเจ้าของ Github ในปัจจุบันด้วยทำให้สายธุรกิจของ
Microsoft แผ่ไปในวงกว้างอย่างมากและเป็นเหตุผลว่าทำไม หุ้น MSFT ถึงได้รับความนิยมพอๆกับ Apple
|
    Intel ซึ่งมาเป็นอันดับที่ 3 เนื่องจาก intel เป็นบริษัทผลิต
ชิพสารกึ่งตัวนำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้คิด ไมโครโปรเซสเซอร์ x86
ที่ใช้กันอยู่มากที่สุดในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลพูดง่ายๆก็คือ
ยิ่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้รับความนิยมมากเท่าไร Intel ก็ขายผลิตภัณฑ์ได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่จาก
Part1 ที่อัตราหุ้นที่ต่ำกว่าวันก่อนหน้า และ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Intel ถือว่าเยอะที่สุดเป็นอันดับ 1
ก็เพราะในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา Intel มีปัญหาด้านข้อมูล และช่องโหว่ในตัวอุปกรณ์
และปัญหาของบุคคลภายในองค์กรทำให้หุ้นของ Intel
ทำกำไรได้น้อยกว่าบริษัทอื่นๆแต่ก็ยังถือว่าได้รับความนิยมอยู่ดี
|
    HP ซึ่งมีความนิยมเป็นอันดับ 4 ซึ่งถือว่าน้อยกว่า อันดับ 1-3 เป็นอย่างมาก เนื่องจาก
ผลิตภัณฑ์ของ HP ซึ่งเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไปมีคู่แข่งอยู่พอสมควร เช่น Dell, Lenovo
ทำให้เกิดการเปรียบเทียบด้านผลิตภัณฑ์ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว HP มีราคาถูกแต่ก็มีปัญหาด้านอื่นๆ เช่น
อายุการใช้งานเป็นต้นถ้าเกิดการพังในระยะประกัน คู่แข่งอย่าง Dell
ก็มีจุดขายด้านประกันที่ดีเยี่ยมทำให้ HP ดูด้อยในจุดนี้ลงไปอีก ทำให้ราคาหุ้นของ HP
ต่ำอยู่พอสมควรและอาจไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนมากนักทำให้หุ้น HP มีความนิยมเป็นอันดับที่ 4
|
    หุ้น google ซึ่งมาเป็นอันดับสุดท้ายซึ่งถือว่าได้รับความนิยมต่ำที่สุด
เหตุผลแรกอาจมาจากราคาต่อหุ้นของ google ซึ่งสูงถึง 1000 ดอลลาร์เทียบกับ Apple และ Microsoft
ซึ่งราคาอยู่ที่ประมาณ 100 และ 200 ดอลลาร์เท่านั้น อีกทั้งผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้หวือหวาเท่าไร เทียบกับ
Apple แล้วทำให้มีคู่แข่งด้านผลิตภัณฑ์อยู่เหมือนกัน ส่วนในรอบ 6 เดือนนี้ บริษัท google
มีปัญหาอยู่บ่อยครั้งยิ่งช่วงเดือน ตุลาคมที่พบว่าเกิดการปิดข่าวการเด้งพนักงานจากการคุกคามทางเพศ
และยังเป็นผู้ผลิตแอนดรอยด์ด้วย ทำให้เกิดกระแสด้านลบต่อ Google
พอสมควรทำให้ราคาหุ้นตกลงเป็นอย่างมากในหลัก 100 ดอลลาร์ถือว่าขาดทุนมากที่สุดใน 5
หุ้นตัวอย่างหากคิดจะลงทุน จึงเป็นสาเหตุให้หุ้น Google
เป็นหุ้นตัวอย่างที่คนนิยมมากที่สุดอยู่เป็นอันดับสุดท้าย
|